การกำหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรู้
The SOLO taxonomy
The SOLO taxonomy เป็นการจัดระดับเพื่อประโยชน์ในการแสดงคุณสมบัติเฉพาะในระดับต่าง
ๆ กันของคำถาม และคำตอบที่คาดว่าจะได้รับจากผู้เรียน
เป็นชุดของเกณฑ์การประเมินผลการเรียนที่เป็นระบบที่นำมาช่วยอธิบายว่า
ผู้เรียนมีพัฒนาการปฏิบัติที่ซับซ้อนอย่างไร
ในการเรียนเพื่อรอบรู้ที่มีความหลากหลายของภาระงานทางวิชาการ
โดยที่นิยมจุดประสงค์ของหลักสูตร ในสภาพที่พึงประสงค์ของการปฏิบัติ
เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนที่ปฏิบัติได้จริง
การใช้ SOLO Taxonomy
ในการกำหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรู้
จะช่วยให้ทั้งครูและผู้เรียนตระหนักถึงองค์ประกอบที่หลากหลายจากหลักสูตรได้อย่างแจ่มชัดขึ้น
แนวคิดดังกล่าวถูกนำไปกำหนดเป็นนโยบายใช้ในการประเมินในมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาหลายแห่ง
สืบเนื่องจากสามารถนำไปใช้ได้ในหลายสาขา การประเมินความสามรถในการปฏิบัติของผู้เรียนอยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาผู้เรียนในแง่ของความเข้าใจที่ซับซ้อน
ซึ่งความเข้าใจดังกล่าวแบ่งได้เป็น 5 ระดับ (1) ระดับโครงสร้างขั้นพื้นฐาน (Pre-structural) (2) ระดับโครงสร้างเดี่ยว (Uni-structural) (3)
ระดับโครงสร้างหลากหลาย (Multi- structural) (4)
ระดับความสัมพันธ์ของโครงสร้าง (Relational Level) และ (5)
ระดับแสดงความต่อเนื่องในโครงสร้างภาคขยาย (Extended Abstract Level)
ตารางที่
24 การจัดระดับ SOLO
Taxonomy คำถามแลการตอบสนองที่คาดหวังจากผู้เรียน
ประเด็นสำคัญที่พึงระมัดระวังในการใช้ SOLO Taxonomy
การปรับใช้ SOLO Taxonomy กับแนวคิดการสรรค์สร้างองค์ความรู้
ต้องนึกอยู่เสมอว่าปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการสอนและการเรียนรู้มีอยู่มากมาย อาทิ
ในการสอนครูสอนมีวิธีการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้อย่างไร
ครูสอนต้องมีความรู้เกี่ยวกับแรงจูงใจในการเรียนรู้ของผู้เรียน
ในการเรียนรู้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้มากน้อยเพียงใด
จะต้องมีสิ่งสนับสนุนอะไรจึงจะช่วยให้ผู้เรียนบรรลุผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้
การกำหนดระดับคุณภาพของสมรรถนะนี้เป็นการให้ความสำคัญที่การเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนตามความสามารถ
(แทน “สิ่งที่ครูมักระบุว่านักเรียนคนนั้น
คนนี้ เก่ง / ไม่เก่ง หรือ ดี / ไม่ดี”)
และการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนเพื่อจะนำไปสู่การเรียนรู้ที่ดี
การปฏิบัติตามแนวคิดดังกล่าวนี้
สรุปได้ว่า
·
ทำให้ ILO ชัดเจนยิ่งขึ้น (ความมุ่งมั่น/เจตนา (Intended) การเรียนรู้ (Learning )ผลผลิต(Outcomes)
·
การทดสอบสมรรถ ILO’ s การสอน
ครูผู้สอนต้องบอกกระบวนการ ILO ในการบรรลุผลการเรียนรู้
ให้นักเรียนได้รับทราบด้วย
SOLO Taxonomy มีเหมาะสมดีที่นำมาใช้ในการให้เหตุผลในการกำหนดสมรรถนะในหลักสูตรและรายวิชาต่าง
ๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
การกำหนดระดับคุณภาพของสมรรถนะตามแนวคิด SOLO Taxonomy การเรียนรู้อย่างลุ่มลึกไม่ใช้เรียนแบบผิวเผิน
SOLO 4 : การพูดอภิปราย สร้างทฤษฎี ทำนายหรือพยากรณ์
SOLO 3 : อธิบาย วิเคราะห์
เปรียบเทียบ
SOLO 2 : บรรยาย รวมกัน
จัดลำดับ
SOLO 1 : ท่องจำ ระบุ
คำนวณ
บทบาทของการสอบ
“การสอบไม่ใช่สิ่งที่ตามมาแต่ต้องคิดไว้ก่อน” แนวคิดสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรเมื่อต้องการทดสอบสมรรถนะหรือผลผลิตของการสอน นักพัฒนาหลักสูตรจะต้องมีความรู้ต่อไปนี้
ทฤษฎีการวางแผน (ตลอดโปรแกรมของหลักสูตร)
ทฤษฎีเกี่ยวกับแรงจูงใจ (และสิ่งที่กระตุ้นแรงจูงใจ)
ทั้งนี้เพื่อปรับเปลี่ยนแนวคิด “การสอบคล้ายกับ” การเปลี่ยนจากความชั่วร้าย เป็นการสร้างแรงจูงใจ (motivation) และแนวทางในการเรียนรู้ (learning guiding)
ที่เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน
การจัดลำดับขั้นตอนของจุดประสงค์การเรียนรู้ของบลูม
(Bloom Taxonomy 1956)
เมื่อนำมาสัมพันธ์กับแนวคิด (SOLO Taxonomy ของ Biggs & Collis 1982)
SOLO 1 และ 2 สอดคล้องกับแนวคิดของบลูม ในขั้นความรู้ (จำ) ความเข้าใจ
และการนำไปใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ
SOLO 3 และ 4
สอดคล้องกับแนวคิดของบลูม
ในขั้นการวิเคราะห์
สังเคราะห์และประเมินค่าข้อมูลเชิงคุณภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น